คือบนชั้นสีจะมีเคลือบใสอยู่ ถ้าถลอกแต่ชั้นใสนี้ พวกครีมลบรอยจะไปกลบให้เนียนดูไม่ออกว่ามีรอยถลอกอยู่น่ะครับ ถ้าเป็นสีแต้มก็เหมือนเราเอาลิควิดเปเป้อร์ไปแต้มด้วยสี ไม่เห็นขีดแล้วจริงจะเนียนหรือไม่ขึ้นอยู่กับฝีมือคนทาครับ แต่ถ้าถึงเนื้อเหล็กแล้วก็แต้มไว้กันสนิมกันด่างก็ดีกว่าปล่อยไว้ครับ
ส่วนอีกกรณีคือไปชนแลกสีกับอะไรมา ถ้าไม่แต้มสีทับก็ต้องล้างสีที่ติดอยูนั้นออก ถ้าเป็นรถชนรถ ส่วนใหญ่ใช้ทินเนอร์ล้างออกครับ ถ้าไม่ขูดทะลุชั้นเคลือบใสจนทะลุไปถึงเนื้อสีของรถเรา ทินเนอร์จะไม่ลอกสีเราออก จะออกแต่สีที่มาติดครับ เสร็จแล้วก็ใช้ยาหรือครีมลมรอยไปกลบซะก็เรียบร้อยครับ
จะเห็นได้ว่า การใช้สีแต้มนั้นไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา แค่กลบไว้ ถ้าเป็นรถยนต์ที่โดนหินกระเด็นถลอกแล้วอาจเกิดสนิมได้ก็ควรแต้มซะครับ แต่ถ้าสีอื่นมาขูดก็จะเห็นว่ามีวิธีอื่นที่จัดการที่รากขอกปัญหา สียี่ห้อที่เป็นด้ามเล็กๆคล้ายปากกานั้นไม่ค่อยครงเลยด้วยครับ ชื่อครงและครบตามยี่ห้อรถแต่จริงๆออกมาไม่ค่อยตรงครับ แถมดูราคาแล้วคิดเีีทียบกับสีกระป๋องก็แพงกว่าเยอะ จริงๆ สมัยก่อนรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีสีให้แต้มแถมมากระป๋องเล็กๆ อยู่แล้ว เดี๊ยวนี้ยังพอมีให้มาอยู่บางรุ่น ถ้าอยากแต้มจริงๆ ไปหาซื้อสีกับพู่กันมาคุ้มกว่าครับ
ไอ้ครีมหรือยาลบรอยนี่มันไม่ถาวรนะครับ ล้างรถบ่อยๆ ก็หายรอยโผล่เหมือนเดิม ถ้าอยากแก้ไขถาวรก็สามารถลบถลอกรอยให้เนียนไปกับเคลือบใสด้วยการขัดด้วยกระดาษทรายครับ เสร็จแล้วจะมีน้ำยาขัดต่อให้เนียนใสเหมือนเดิม แต่ทำไปแล้วชั้นเคลือบจะบางลง ไม่ควรทำบ่อยครับ